เหลือเวลาอีกไม่เพียงกี่อึดใจแล้วที่แฟนกีฬาศิลปะการต่อสู้ในอีก 190 ประเทศทั่วโลก จะได้รับชมการแข่งขันสุดยิ่งใหญ่ในศึก ONE 170 ที่จะหวนกลับมาระเบิดความมันขึ้นอีกครั้ง ณ อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี ในวันศุกร์ที่ 24 ม.ค. เริ่มคู่แรก 18.30 น.
โดยเมื่อช่วงค่ำวันอังคารที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา ตามเวลาประเทศไทย ONE ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวศึก ONE 170 อย่างเป็นทางการ ขึ้นที่โรงแรมแมริออท สุขุมวิท กรุงเทพฯ ซึ่งมีสื่อมวลชน อินฟลูเอนเซอร์ และแฟนคลับ เข้าร่วมฟังการแถลงข่าวเป็นจำนวนมาก
สำหรับศึกนี้จัดเต็มด้วยไฟต์ชิงแชมป์โลกมากถึง 3 คู่ พร้อมเปิดโอกาสให้นักกีฬาจาก ONE ลุมพินี ที่แม้จะยังไม่ได้เซ็นสัญญา ได้ร่วมโชว์ฝีมือ รวมถึงจะมีทีมงานภาพยนตร์ฮอลลีวูด “The Beast In Me” ที่ ONE เป็นผู้ร่วมสร้าง บินมาถ่ายทำบางฉากบางตอนถึงในสนามด้วย
งานนี้ “บิ๊กบอส” ชาตรี ศิษย์ยอดธง ผู้ก่อตั้ง ประธาน และซีอีโอของ ONE ได้ออกมาการันตีพูดถึงความยิ่งใหญ่ของศึก ONE 170 ที่กลับมาระเบิดความมัน ณ อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี อีกครั้ง ด้วยตัวเองว่า
“ผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้จัดการแข่งขันการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ประเทศไทย โดยมีนักกีฬาศิลปะการต่อสู้ที่เก่งที่สุดจากทั่วโลกมาร่วมการแข่งขัน และถ่ายทอดสดไปยัง 195 ประเทศทั่วโลก”
“วัน แชมเปียนชิพ เป็นรายการศิลปะการต่อสู้ที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลกจากข้อมูลของ Nielsen เรามีนักกีฬาผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกตัวจริง ทั้งแชมป์โลกมวยไทย แชมป์โลกปล้ำจับล็อก และแชมป์โลก MMA บนเวทีศิลปะการต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประเทศไทยคือบ้านเกิดของผม และเป็นประเทศที่กีฬาต่อสู้เป็นที่นิยม ผมรู้สึกดีใจมาก ๆ ที่ได้นำกีฬาที่ผมรักมาแบ่งปันให้ทุกคนมีความสุขร่วมกันในครั้งนี้”
“นอกจากนั้น เมื่อ 9 เดือนก่อน รัสเซล โครว์ ติดต่อมาหาผมและบอกว่าพวกเขาอยากถ่ายทำเรื่องราวของ ONE และนักกีฬาของเรา ผมจึงคิดว่าวิธีที่ดีที่สุดคือให้ไปถ่ายทำที่ อิมแพ็ค อารีนา ซึ่งจะได้เห็นบรรยากาศสดและผู้ชมที่อัดแน่นเต็มสนาม โดยระหว่างการแข่งขันในศึกนี้ จะมีช่วงที่ทีมงานของ รัสเซล โครว์ จะมาพร้อมกับทีมนักแสดงเพื่อถ่ายทำฉากต่อสู้บนสังเวียน ซึ่งทุกคนที่อยู่ในสนามวันนั้น จะได้มีส่วนร่วมอยู่ในหนังฮอลลีวูดด้วย”
สำหรับคู่เอกนำรายการ “ซ้ายดารา” ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) วัย 25 ปี จากชลบุรี เตรียมรั้งบัลลังก์ครั้งที่ 4 จากคู่ปรับเก่า “ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์” แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเดียวกัน จากพัทลุง ที่หวังจะมาสร้างประวัติศาสตร์ขึ้นแท่นเป็นแชมป์โลก 2 กติกา ให้ได้
ด้านเจ้าของเข็มขัด “ตะวันฉาย” ออกมาแสดงความมั่นใจว่า หากตนสามารถป้องกันเข็มขัดครั้งนี้ได้สำเร็จ พร้อมมุ่งเป้าขอแย่งชิงบัลลังก์ของ “ซุปเปอร์บอน” มาครองเป็นลำดับต่อไป
“ความฝันต่อไปของผมคืออยากได้เข็มขัดคิกบ็อกซิ่ง ถ้าชนะไฟต์นี้ได้ผมก็อยากไปชกคิกบ็อกซิ่งกับ พี่ซุปเปอร์บอน มาก พี่เขาได้มาชิงกับผมแล้ว ผมก็อยากไปชิงจากพี่เขาบ้างครับ”
ทางด้าน “ซุปเปอร์บอน” เปิดใจด้วยความมั่นใจตามสไตล์ว่า ขอนำข้อผิดพลาดจากการเจอกันในครั้งแรกมาปรับปรุง เพื่อแสดงผลงานให้ดีขึ้นกว่าเดิมในการท้าชิงบัลลังก์ภาคสองกับ “ตะวันฉาย”
“จากไฟต์ที่แล้วสิ่งที่ผมได้เรียนรู้และจดจำมาคือ ตะวันฉาย เป็นนักมวยที่เตะเร็วและถีบได้แม่นยำมาก ถ้าเมื่อไหร่ที่ผมสามารถป้องกันลูกเตะกับลูกถีบของเขาได้ ผมจะชนะได้แน่นอนครับ”
ขณะที่คู่รอง “ฟาบริซิโอ อานดราเด” แชมป์โลก ONE MMA รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) จากบราซิล เตรียมโชว์ทีเด็ด เพื่อรั้งบัลลังก์ครั้งแรก จาก “ควอน วอน อิล” คู่ปรับเก่าจากเกาหลีใต้ ที่ไฟต์นี้หวังทำภารกิจล้างแค้นและกระชากเข็มขัดมาครองให้ได้ในคราวเดียวกัน
ทาง “ฟาบริซิโอ” ยอมรับว่าตอนนี้ “ควอน วอน อิล” กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มการชกที่ดี แต่สุดท้ายแล้วตนยังเชื่อมั่นว่าบทสรุปของเกมที่ออกมานั้นจะเป็นในรูปแบบเดิมแน่นอน
“หลังจากที่ ควอน วอน อิล แพ้ให้กับผมในครั้งที่แล้ว เขาได้สู้อีก 3 ไฟต์ ซึ่งผมได้เห็นว่าเขาพัฒนาขึ้นมาก แต่ผมมั่นใจว่าผมเก่งกว่าเขาครับ”
ส่วนฝั่ง “ควอน วอน อิล” ที่เก็บชัยชนะมารวดใน 3 ไฟต์หลังสุด สวนกลับคำพูดของแชมป์ทันควัน โดยเจ้าตัวมั่นใจว่าการรีแมตช์ครั้งนี้ “ฟาบริซิโอ” ไม่มีทางเจองานง่ายแน่นอน
“ในครั้งแรกที่ผมพบกับ ฟาบริซิโอ สภาพจิตใจผมไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ผมพัฒนามากขึ้นในทุกด้าน และเชื่อว่าผมเก่งกว่า ฟาบริซิโอ เหมือนกันครับ”
อีกคู่ที่แฟนกีฬาชาวไทยให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ เป็นการเปิดศึกชิงเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต เฉพาะกาล ระหว่าง “นิโค คาร์ริลโล” นักสู้ฟอร์มดุ เจ้าของตำแหน่งผู้ท้าชิงอันดับ 2 จากสกอตแลนด์ พบกับผู้ครองตำแหน่งผู้ท้าชิงอันดับ 5 อย่าง “นาบิล อานาน” ดาวรุ่งก้านยาวเชื้อสายแอลจีเรีย/ไทย
โดย “นิโค” ประกาศชัดไม่มีปัญหาที่ต้องเปลี่ยนตัวคู่ชก จากเดิมต้องเจอแชมป์ตัวจริง “ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9” มาเป็น “นาบิล” แทน ย้ำตนพร้อมสู้ตามมาตรฐานเต็มที่เหมือนเดิมทุกไฟต์
“ผมขอขอบคุณ วัน แชมเปียนชิพ ที่หาคู่ชกมาแทน (ซุปเปอร์เล็ก) ทำให้รู้สึกว่าการเตรียมตัวซ้อมมานาน 8-9 สัปดาห์ ของผม ไม่สูญเปล่า การเจอกับ นาบิล ไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน เขามีสไตล์แตกต่างจาก ซุปเปอร์เล็ก แต่ผมมีแผนและพร้อมเจอกับ นาบิล แล้ว”
ส่วนฝั่ง “นาบิล” เผยว่าฝีมือของตนมีพัฒนาการดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่แพ้ให้กับ “ซุปเปอร์เล็ก” ในไฟต์เปิดตัว โดยตนพร้อมแล้วที่จะสู้กับนักมวยฟอร์มแรงอาวุธแกร่งอย่าง “นิโค”
“หลังจากแพ้ในไฟต์แรก (พบกับ ซุปเปอร์เล็ก) ตอนนี้ผมเติบโตขึ้นเยอะมาก สำหรับ นิโค เป็นคู่ชกที่แข็งแกร่ง มีพลังเยอะมาก ผมได้ฝึกร่างกายมาให้มีความทนทานมากขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการฝึกซ้อมอยู่แล้ว ส่วนผมจะรับมือเขายังไง ต้องคอยดูวันศุกร์ที่ 24 นี้ครับ”
แถมท้ายด้วยคู่มวยเดือดดีดคูณสอง “Jojo” โจฮัน กาซาลี นักสู้หนุ่มลูกครึ่งมาเลเซีย-สหรัฐอเมริกา พร้อมเปิดศึกพิสูจน์ดีกรีซ่า “Panda Kick” โยฮัน เอสตูปินาน แฝดจอมคึกผู้พี่จากโคลอมเบีย ภายใต้กติกามวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.)
งานนี้ “โจฮัน” ยอมรับว่า “โยฮัน” เป็นนักมวยที่มีความเร็วชนิดหาตัวจับได้ยาก แต่หากตนจับจุดสกัดจุดเด่นของคู่ชกสายดีดรายนี้ได้ ก็พร้อมปิดเกมแบบไม่ครบยกทันทีเลยเช่นกัน
“โยฮัน เป็นนักสู้ที่มีความเร็ว แต่จังหวะจะชนะความเร็ว ความแม่นยำจะชนะพละกำลัง ผมรู้สึกว่าเขามักจะออกอาการให้เห็นเวลาโดนอัดหนัก ๆ ในทุกไฟต์ ผมคิดว่าถ้าเราดวลกันหมัดต่อหมัด คนที่โดนน็อกจะไม่ใช่ผมครับ”
ทางฝั่ง “โยฮัน” เผยรู้สึกปลื้มใจมากที่ได้มีโอกาสขึ้นชกในรายการระดับโลกพร้อมกับ “จอร์แดน เอสตูปินาน” แฝดน้องของตัวเอง (คู่แรก – พบกับ เฟรดดี แฮ็กเกอร์ตี) โดย “พี่น้องเอสตูปินาน” พร้อมจับมือกันสร้างความเร้าใจให้กับผู้ชมเต็มอิ่ม
“ผมต้องขอขอบคุณทุกคนที่เชิญพวกเรามาชกในรายการนี้ ผมกับ จอร์แดน น้องชายรู้สึกดีใจมากที่ได้อยู่ที่นี่ คุณจะได้รับชมการชกที่สุดยอดที่สุดจากเราเท่าที่คุณเคยเห็นมา”
นอกจากนี้ยังมีนักกีฬาไทยอีก 4 ราย ให้แฟนมวยได้ร่วมส่งกำลังใจเชียร์กัน ได้แก่ “สุริยันต์เล็ก พ.เย็นยิ่ง”, “สินสมุทร กลิ่นมี”, “โจ ณัฐวุฒิ” และ “เสกสรร อ.ขวัญเมือง” ร่วมด้วยเหล่านักกีฬาระดับแถวหน้าของ ONE ที่พร้อมลงแข่งขันในรายการนี้ รวมทั้งสิ้น 12 คู่ รับประกันความมันระดับห้าดาว ไม่ทำให้ผู้ชมทั่วโลกที่เฝ้ารอคอยต้องผิดหวังแน่นอน.
- ช่องทางติดตาม >> ข่าวมวย