“อัลลิเซีย เฮลเลน รอดริเกส” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวต (105-115 ป.) จากบราซิล พร้อมป้องกันบัลลังก์เป็นครั้งที่ 3 หวังใช้ฝีมือสยบมวยมาดีกรีอย่าง “มารี แมคมานามอน” ผู้ท้าชิงวัย 34 ปีสาวตัวแทนสหราชอาณาจักร/ไอร์แลนด์ ที่จะมาปรากฏตัวบนเวทีแห่งนี้เป็นครั้งแรก ในฐานะคู่เอกศึก ONE Fight Night 29 ที่จะถ่ายทอดสดให้แฟนกีฬาต่อสู้ใน 195 ประเทศทั่วโลกได้รับชมจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับช่วงเช้าเวลา 08:00 น. ในวันเสาร์ที่ 8 มี.ค.นี้
“อัลลิเซีย” ก้าวเข้าสู่สังเวียน ONE ตั้งแต่เดือน ส.ค.63 ซึ่งแค่ไฟต์แรกเธอโชว์ฝีมือกระชากเข็มขัดจาก “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” ด้วยคะแนนเสียงข้างมาก คว้าแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวตหญิง มาครองอย่างยิ่งใหญ่ ในศึก ONE: A New Breed ก่อนที่เธอจะพักการแข่งขันชั่วคราวเพื่อทำหน้าที่คุณแม่
หลังจากนั้นเธอกลับมาป้องกันตำแหน่งครั้งแรกในเดือน มี.ค.66 และผงาดเหนือบัลลังก์อย่างไร้ข้อกังขาจากการเอาชนะราชินีเฉพาะกาล “เจเน็ต ท็อดด์” ไปด้วยคะแนนเอกฉันท์ พร้อมรวบเข็มขัดมวยไทยมาครอบครองแต่เพียงผู้เดียว ในศึก ONE Fight Night 8 ส่วนผลงานล่าสุดเธอลงป้องกันเข็มขัดเป็นครั้งที่ 2 และสามารถเขี่ย “คริสตินา โมราเลส” ผู้ท้าชิงมากฝีมือจากสเปนให้พ้นทางไปอีกราย ในศึก ONE Fight Night 20 เมื่อเดือน มี.ค.67 ส่งให้เธอเป็นราชินีมวยไทยผู้ไร้เทียมทานของรุ่นนี้มานานกว่า 4 ปี แล้ว
“การเป็นแชมป์โลก ONE เปลี่ยนชีวิตฉันไปเลย ฉันรู้สึกมีความสุขมาก ๆ ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และพิสูจน์ให้เห็นว่าอาชีพมวยสามารถเลี้ยงชีพได้ นี่เป็นความใฝ่ฝันของฉันมาตลอดชีวิต”
“ในขณะเดียวกัน การอยู่บนจุดสูงสุดก็ทำให้ฉันรู้สึกกดดันตลอดเวลา แต่ความกดดันนั้นกลายเป็นแรงผลักให้ฉันยิ่งอยากสู้ อย่างที่มีคำกล่าวว่า ‘การจะขึ้นถึงจุดสูงสุดนั้นยากมาก แต่การรักษาจุดยืนตรงนั้นยากยิ่งกว่า’ การป้องกันแชมป์เส้นนี้จึงถือเป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ ทำให้ฉันต้องฝึกให้หนักขึ้นเพื่อจะรักษาเข็มขัดบนบ่าให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้”
ศึกครั้งนี้เธอจะต้องป้องกันบัลลังก์กับ “มารี” ผู้ท้าชิงมากฝีมือมีดีกรีเป็นถึงแชมป์โลกมวยไทย จากรายการ Roar Fighting Championship 2024 เจ้าของสถิติคว้าชัย 13 ครั้ง จาก 16 ไฟต์ที่ลงแข่งขัน และได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในนักมวยไทยรุ่นอะตอมเวตที่ดีที่สุดของสหราชอาณาจักร นอกจากนั้น เธอยังเป็นศิษย์ร่วมสำนักของ “โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี” ราชันคิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวตด้วย
แม้ “อัลลิเซีย” ไม่เคยรู้จัก “มารี” มาก่อน แต่เธอรู้ดีว่าหาก “มารี” ได้โอกาสเป็นผู้ท้าชิงตั้งแต่ไฟต์แรกที่เปิดตัว เธอย่อมไม่ใช่นักชกไก่กาและเชื่อว่าผู้ท้าชิงรายนี้จะเป็นมวยถูกคู่ของตนแน่นอน
“สำหรับ มารี เป็นมวยฝีมือที่มีความสุขุมรอบคอบมาก และยังมีทักษะมวยไทยดีมากด้วย ตอนแรกฉันไม่รู้จักเธอเลยด้วยซ้ำ แต่พอไปศึกษามาก็รู้ได้เลยว่า ไฟต์ของเราทั้งคู่จะต้องสูสีมากแน่นอนเพราะเราต่างมีสไตล์การชกเหมือนกัน”
“และเมื่อต้องเจอกับคนสูงกว่าอย่าง มารี ฉันจึงต้องลงนวมกับเพื่อนร่วมค่ายที่ตัวใหญ่กว่าหลายคนเลย ครั้งนี้ เราเตรียมแผนเล่นงานที่ขาเป็นหลักและเพิ่มการต่อสู้ระยะประชิด โดยนอกจากหมัดและแข้งที่จะต้องใช้แล้ว ฉันยังเตรียมแม่ไม้มวยไทยอื่น ๆ แบบครบเครื่องมาเล่นงานเธอโดยเฉพาะด้วย”
นอกจากนี้ “อัลลิเซีย” ยังมั่นใจว่าการได้ลงหลักปักฐานในไทยและได้ฝึกซ้อมมวยไทยต้นตำรับเป็นประจำมานานเกือบ 7 ปี จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เธอมีภาษีดีกว่าผู้ท้าชิงแน่นอน
“ฉันใช้ชีวิตในประเทศไทยที่เป็นต้นกำเนิดมวยไทยมานาน 6-7 ปีแล้ว และยังได้ฝึกซ้อมในรูปแบบมวยไทยต้นตำรับซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงการฝึกซ้อมร่างกายให้แข็งแกร่งเท่านั้น แต่ยังเป็นการฝึกความคิดและจิตใจด้วย”
“แม้ มารี จะเป็นนักสู้ที่เก่ง แต่ฉันเชื่อว่าพวกเขาไม่ได้ฝึกเหมือนเรา พวกเราฝึกหนักกันเป็นกิจวัตร นี่คือข้อได้เปรียบของฉัน ตอนนี้ฉันได้ชื่อว่าเป็นเบอร์หนึ่งของรุ่น ดังนั้นเราคงต้องมาวัดกันหน่อย”.
- ช่องทางติดตาม >> ข่าวมวยวันนี้