“ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) วัย 25 ปี จากชลบุรี พร้อมออกตามล่าความฝันขึ้นแท่นราชัน 2 กติกา บุกไปดวลนักสู้ดาวเด่นเลือดซามูไร วัย 31 ปี “มาซาอากิ โนอิริ” โดยมีเข็มขัด ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต เฉพาะกาล เป็นเดิมพัน ในศึก ONE 172: ทาเครุ vs รถถัง ที่จะถ่ายทอดสดไปยัง 195 ประเทศทั่วโลก จากสังเวียน ไซตามะ ซูเปอร์ อารีนา ประเทศญี่ปุ่น ในวันอาทิตย์ที่ 23 มี.ค.68 เริ่มเวลา 14.00 น.
สำหรับ “ตะวันฉาย” เพิ่งโชว์ทีเด็ดป้องกันบัลลังก์มวยไทย ครั้งที่ 4 เอาไว้ได้อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการเอาชนะทีเคโอ ยก 2 คู่ปรับเก่าอย่าง “ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์” ราชันคิกบ็อกซิ่ง รุ่นเดียวกัน ได้แบบเด็ดขาดไร้ข้อกังขา ในศึก ONE 170 เมื่อค่ำคืนวันศุกร์ที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่ก่อนหน้านั้นกำปั้นเจ้าของฉายา “ซ้ายดารา” เคยฝากผลงานยอดเยี่ยมกับการชกกติกาคิกบ็อกซิ่งใน ONE ไปแล้ว 2 ไฟต์ โดยสามารถเก็บชัยได้ทั้งหมดที่พบกับ “ดาวิต คิเรีย” จากจอร์เจีย และ “โจ ณัฐวุฒิ” ตามลำดับ ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวพร้อมแล้วที่จะขอจารึกชื่อว่าเป็นเจ้าบัลลังก์ 2 กติกาคนถัดไป
โดยล่าสุด “ตะวันฉาย” ได้เปิดค่ายมวยพีเค.แสนชัยมวยไทยยิม ย่านพระราม 3 ที่เจ้าตัวปักหลักเป็นฐานฝึกซ้อมอยู่ในปัจจุบัน ต้อนรับพี่น้องสื่อมวลชนเพื่อร่วมกิจกรรมเช็กฟิต (Open Workout) ซ้อมโชว์เนื้อตัว รวมถึงให้สัมภาษณ์ความพร้อมล่าสุด ก่อนขึ้นสังเวียนบู๊ไฟต์สุดสำคัญในวันที่ 23 มี.ค.นี้
“หลังชนะ พี่ซุปเปอร์บอน ผมพักประมาณ 2 สัปดาห์ แล้วกลับมาซ้อมต่อทันที น้ำหนักตอนนี้ไม่มีปัญหา สภาพร่างกายอยู่ที่ 70-80 เปอร์เซ็นต์ ช่วงที่เหลือผมเร่งเต็มที่ พร้อมไปสู้แบบเกิน 100 เปอร์เซ็นต์แน่นอน”
“ผมเคยชกคิกบ็อกซิ่งมาแล้ว 5 ครั้ง ใน ONE 2 ครั้ง และที่จีนอีก 3 ครั้ง ถึงเวลาที่ผมจะได้ทำอย่างที่ตั้งใจไว้แล้วว่า อยากจะเป็นแชมป์โลก 2 กติกาให้ได้ ไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องวิตกกังวลอีกแล้ว ต้องลุยอย่างเดียวครับ”
“การเจอกับ มาซาอากิ ในครั้งนี้ ผมบอกได้เลยว่าอย่ามองข้ามเขาเด็ดขาด เพราะแข่งในบ้านของเขาและสู้กันในกติกาคิกบ็อกซิ่งที่เขามีประสบการณ์มากกว่าด้วย เขาต้องซ้อม 200 เปอร์เซ็นต์และสู้ตายแน่นอน ผมประมาทไม่ได้เลยจริง ๆ”
“ไฟต์ล่าสุด มาซาอากิ ชกได้ดี (ชนะน็อก ยก 2 ชากีร์ แอล เตครีติ, ศึก ONE 170) แต่เหมือนเขายังไม่ได้เจอกับคู่ชกที่เก่งมาก ๆ ต้องดูว่าถ้าเจอกับตัวระดับท็อป อาจเห็นอะไรได้ชัดมากกว่านี้ครับ”
ไฟต์นี้ “ตะวันฉาย” กลับมาชกในกติกาคิกบ็อกซิ่งอีกครั้ง ซึ่งเจ้าตัวเองก็ยอมรับว่ายังมีอีกหลายจุดที่ต้องปรับปรุงแก้ไข โดยมีทั้ง “เทรนเนอร์หวัง” และพี่ชายคนสนิทอย่าง “พระจันทร์ฉาย พีเค.แสนชัย” เจ้าของแชมป์โลก ONE 2 กติกา ช่วยกันติวเข้มให้แบบใกล้ชิดเหมือนเดิม
“การชกคิกบ็อกซิ่งต้องปรับเปลี่ยนการซ้อมเยอะอยู่พอสมควร ผมยอมรับตรง ๆ ว่าไม่ค่อยถนัดชกในกติกานี้มากนัก สิ่งที่ผมชอบทำบ่อย ๆ อย่างจับขา หรือ ฟันศอก บางทียั้งไม่อยู่ เลยเผลอตัวทำลงไป ทำให้เวลาโดนเตือนแล้วรู้สึกเกร็ง ไม่กล้าออกอาวุธเต็มร้อย ครั้งนี้ ก็ต้องพยายามฝึกเล่นเชิงให้ชินมากที่สุดครับ”
“ผมคุยปรึกษากับ เทรนเนอร์สมหวัง ตลอดว่าต้องชกในรูปแบบไหน และดูเทปการชกของ มาซาอากิ อย่างละเอียด ส่วน พี่พระจันทร์ฉาย ก็คอยช่วยสอนเสริมให้อยู่ตลอด เวลามีปัญหาตรงไหน ผมจะให้เขาช่วยแนะนำเสมอ ไฟต์นี้ ผมเตรียมอาวุธเป็นพิเศษ มีเซอร์ไพรส์ให้ทุกคนเห็นแน่นอนครับ”
บทสรุปไฟต์ต่อไปที่เจอกับ “มาซาอากิ” จะออกมาเป็นรูปแบบไหน “ตะวันฉาย” ยังแทงกั๊กตอบแบบไม่แน่ชัด แต่เป้าหมายปลายทางเจ้าตัวมีภาพชัดเจนในหัวแล้วว่า อยากจะก้าวไปท้าชิงเข็มขัดคิกบ็อกซิ่งจาก “ซุปเปอร์บอน” มาครองให้ได้ หากได้นั่งแท่นแชมป์โลกเฉพาะกาล
“ไฟต์นี้จะจบลงแบบครบยกไหม ผมตอบไม่ได้เลย ให้โอกาสอยู่ที่ 60-40 ผมเองก็มีสิทธิ์โดนได้เหมือนกันแต่ถ้าผมชนะได้เป็นแชมป์โลก เฉพาะกาล ก็ต้องขอไปท้าชิงเข็มขัดจาก พี่ซุปเปอร์บอน เพราะก่อนหน้านี้เขาได้สิทธิ์มาชิงเข็มขัดมวยไทยจากผมไปแล้ว ให้ผมได้ลองชิงเข็มขัดคิกบ็อกซิ่งจากเขาดูบ้าง น่าจะสนุกดีครับ”.
- ช่องทางติดตาม >> ข่าวมวยวันนี้