“ยอดมวย 3 พ.ศ.” พันธ์พยัคฆ์ จิตรเมืองนนท์ นักสู้เชิงดี วัย 29 ปี จากสมุทรปราการ ลืมความผิดหวังจากแพ้ไฟต์ล่าสุด พร้อมกลับมาพิสูจน์ฝีมือปะทะแกร่งน้องใหม่จากอิหร่าน “มาจิด เซย์ดาลี” ในกติกามวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) อีกหนึ่งคู่มวยมันฉลองครบรอบ ONE ลุมพินี อีเวนต์ที่ 100 ซึ่งพร้อมถ่ายทอดสดไปยัง 195 ประเทศทั่วโลก จากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในวันศุกร์ที่ 14 มี.ค.นี้ เริ่มคู่แรก 19.30 น.

สำหรับ “พันธ์พยัคฆ์” เจ้าของรางวัลนักมวยไทยยอดเยี่ยมจากสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย 3 ปี ซ้อน (พ.ศ. 2556-2558) กลับมาสวมนวมยืนสู้บนสังเวียนผืนผ้าใบเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ในศึก ONE ลุมพินี 83 เมื่อเดือน ต.ค.67 โดยไม่ทำให้บรรดาเอฟซีที่เฝ้ารอเชียร์ต้องผิดหวัง เมื่ออาศัยความเก๋าเกมขั้นเทพเอาชนะ “ซิลวิอู วิเตซ” จากโรมาเนีย ไปด้วยคะแนนเอกฉันท์
อย่างไรก็ตามไฟต์ล่าสุดในศึก ONE ลุมพินี 92 เมื่อปลายปีที่ผ่านมา “พันธ์พยัคฆ์” ต้องพบกับความพ่ายแพ้อย่างน่าปวดใจ ด้วยการเสียท่าให้กับหมัดรัสเซีย “เอกอร์ บิเกรฟ” ถูกปิดเกมน็อกไปแบบช็อกแฟนมวยทั้งประเทศในยกที่ 2 ซึ่งถือเป็นการแพ้แบบไม่ครบยกครั้งแรกของเจ้าตัวนับตั้งแต่เข้ามาแข่งขันใน ONE เมื่อปี 2561 และกลายเป็นบทเรียนสุดปวดใจ
“ผมทำพลาดไปเองในไฟต์ที่เจอกับ เอกอร์ ตอนแรกตั้งใจจะคอยบวกอาวุธกลับไป แต่มาพลาดโดนหมัดร่วงไปก่อนในยกแรก หลังจากนั้น ผมพยายามออกอาวุธให้มากขึ้น แต่กลายเป็นว่าเปิดหน้าหลวมมากเกินไป สุดท้ายจึงเป็นฝ่ายแพ้น็อกไปครับ”
“ถึงร่างกายของผมดีขึ้นจากไฟต์แรกก็จริง แต่เมื่อมาโดนนับไปก่อนทำให้จังหวะของเกมเปลี่ยนไป ความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อจิตใจของผมอยู่บ้าง ถือเป็นเรื่องปกติที่คนแพ้จะผิดหวัง แต่ผมต้องกลับมาสู้ใหม่และทำไฟต์ต่อไปให้ดีขึ้นกว่าเดิมครับ”
“กลับมารอบที่ 3 ผมต้องโชว์ของทุกอย่างที่มีออกมาให้หมด ไม่อย่างนั้นมันจะเป็นผลเสียต่อผมอย่างมาก หากต้องแพ้สองไฟต์ติดกัน ผมพร้อมทำผลงานที่ดีที่สุดออกมาให้ทุกคนได้เห็นกัน ตอนนี้ผมเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์หลังพิงฝา จึงแพ้ไม่ได้เด็ดขาดครับ”
การกลับมาพิสูจน์ตัวเองในครั้งนี้ “พันธ์พยัคฆ์” ต้องพบกับ “มาจิด” นักสู้หัวใจปิดเกมเจ้าของฉายา “รถไถ” ที่จะมาเปิดตัวบนเวทีแห่งนี้เป็นครั้งแรก หลังเคยผ่านประสบการณ์การชกมวย 3 ยก ทั้งในรายการ LWC และ Fairtex Fight มวยมันพันธุ์ EXTREME มาแล้ว งานนี้ “พันธ์พยัคฆ์” พร้อมทุ่มสุดตัวเพื่อนำชัยชนะไปฝาก “น้องฮันนี” ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนซึ่งเป็นกำลังใจสำคัญที่ทำให้เขาลุกขึ้นมาสู้ใหม่ในทุกวันนี้
“มาจิด เป็นมวยที่แข็งแรง อาวุธดุดัน พละกำลังของเขาดี มีช่วงบนใหญ่ทำให้เหวี่ยงหมัดได้รุนแรง ไฟต์นี้ ผมวางแผนจะใช้ลูกแย็บหมัดหน้าและลูกถีบเป็นหลัก นอกจากนั้นก็จะคอยดักจังหวะใช้ศอกและเข่าตอบโต้กลับไป จะไม่เน้นเตะมากเท่าไหร่ ที่สำคัญ ผมต้องชกให้รัดกุมมากขึ้น จะไม่ประมาทแน่นอน”
“ส่วนเรื่องการทำน้ำหนักไม่น่ามีปัญหาอะไร ตอนนี้ร่างกายของผมถือว่าดีกว่าเดิมมาก การออกอาวุธมีความกระชับเพิ่มขึ้น เพราะร่างกายได้เคลื่อนไหวต่อเนื่องมาสองไฟต์แล้ว ทุกอย่างถือว่าดีขึ้นตามลำดับ ทั้งในเรื่องของการออกอาวุธและสภาพร่างกายครับ”
“ผมอยากเก็บชัยชนะให้ได้ในไฟต์แรกของปี 2568 ครั้งนี้สำคัญมาก จะแพ้อีกไม่ได้ ผมไม่ได้มองถึงผลการแข่งขันในมุมอื่นเลยนอกจากต้องเก็บชัยชนะให้ได้อย่างเดียวเท่านั้นครับ”
“ผมพร้อมสู้เพื่อตัวเองและลูกสาวที่คอยอยู่ข้างหลัง เขาเป็นเป้าหมายสำคัญที่ทำให้ผมตัดสินใจกลับมาชกอีกครั้ง ผมอยากให้ลูกเห็นว่าพ่อคนนี้ไม่เคยคิดถอดใจ ผมพร้อมสู้เต็มที่เหมือนเดิมครับ”.
- ช่องทางติดตาม >> ข่าวมวยวันนี้