“พันฤทธิ์ ลูกเจ้าแม่สายวารี” จอมบู๊แข้งหนัก วัย 28 ปี จากพัทลุง พกความแค้นรอระเบิด พร้อมเปิดศึกล้างตา “คมอาวุธ เอฟเอ.กรุ๊ป” มวยขวาหนักแน่น วัย 25 ปี จากหนองคาย โดยทั้งสองคนจะวัดฝีมือกันภายใต้กติกามวยไทย พิกัดเฉพาะ (แคตช์เวต) 142 ป. ในฐานะคู่เอกของศึก ONE ลุมพินี 96 ที่จะจัดขึ้น ณ สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในวันศุกร์ที่ 7 ก.พ.68 เริ่มคู่แรก 19.30 น.
2 ปีที่ผ่านมาบนสังเวียน ONE ลุมพินี “พันฤทธิ์” ถือเป็นหนึ่งในนักสู้ที่ได้รับโอกาสลงแข่งขันอย่างต่อเนื่อง หากนับเฉพาะในปี 2567 เขาขึ้นต่อสู้ไปทั้งหมด 5 ไฟต์ในรายการนี้และสามารถเอาชนะได้มากถึง 4 ครั้ง มีเพียงไฟต์ล่าสุดที่สะดุดพลาดท่าพ่ายน็อก “เสือคิม สจ.โต้งปราจีน” ในรายการใหญ่ส่งท้ายปี ศึก ONE ลุมพินี 92 เมื่อ 20 ธ.ค.67
“ไฟต์ที่แล้วกับ เสือคิม ผมวางแผนผิดพลาดเรื่องการทำน้ำหนัก ทำให้ร่างกายผมไม่เต็มร้อยในวันชก แต่ผมตัดสินใจไม่ถอนตัวเพราะมีแฟนมวยรอดูคู่ผมเยอะ ไม่อยากทำให้ทุกคนผิดหวัง”
“เกมการชกยกแรก ผมคิดว่าผมทำได้อย่างที่ซ้อมทุกอย่าง แต่พอขึ้นยกสองผมเริ่มรู้ตัวแล้วว่าสภาพร่างกายยิ่งถดถอยลงเรื่อย ๆ แรงปะทะเริ่มเบาลง การเคลื่อนตัวเริ่มช้าลง ในจังหวะโดนนับแรก ผมโดนหมัดแย็บเข้าเต็ม ๆ พอลุกขึ้นมาก็พยายามเดินบวกเพื่อเอาคืน แต่มาโดนหมัดฮุกซ้าย 2 ครั้ง จนแพ้น็อกไปในที่สุด”
“ผมเสียใจที่ทำผลงานได้ไม่ดี แต่ผมเห็นข้อผิดพลาดของตัวเองมากมายและตั้งใจกลับมาปรับปรุงพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น แม้ความพ่ายแพ้วันนั้นอาจทำให้ความฝันสู่เวที ONE ของผมสะดุดลง แต่ไม่สามารถหยุดผมได้ ผมบอกตัวเองว่าจะกลับมาแกร่งกว่านี้”
เปิดศักราชใหม่ “พันฤทธิ์” กลับมาขึ้นป้ายคู่เอกเป็นครั้งที่ 4 ในรายการนี้ โดยได้โอกาสรีแมตช์กับคู่ปรับเก่าอย่าง “คมอาวุธ” นักสู้จอมอึดที่ฝากผลงานชนะ 6 จาก 8 ไฟต์ไว้บนสังเวียนแห่งนี้ โดยล่าสุดเพิ่งโชว์ฝีมือเอาชนะคะแนนเอกฉันท์เหนือ “อเล็กเซย์ บาลีโก” มวยหมัดความเร็วสูงจากรัสเซีย ในศึก ONE ลุมพินี 91 เมื่อ 13 ธ.ค.67
ศึกภาคแรกระหว่าง “คมอาวุธ” และ “พันฤทธิ์” เกิดขึ้นในศึก ONE ลุมพินี 29 เมื่อเดือน ส.ค.66 ซึ่งวันนั้นเป็นฝ่าย “คมอาวุธ” ที่ได้นับ 8 ในยกช่วงต้นยก 2 ก่อนจะเอาคะแนนเสียงข้างมากไปได้ โดยในครั้งนี้ “พันฤทธิ์” มั่นใจว่าตอนจบของภาคสองจะไม่เหมือนภาคแรกอย่างแน่นอน
“การกลับมาเจอกับ คมอาวุธ เป็นครั้งที่ 2 ถือว่าเราเป็นมวยถูกคู่ ตอนที่เจอกันเมื่อปี 2566 ผมคิดว่าผมทำได้ดีกว่า ออกอาวุธได้ชัดเจนกว่า ถ้าไม่พลาดโดนนับไปก่อน ผมน่าจะเอาชนะเขาได้แน่นอน”
“คมอาวุธ เป็นมวยที่อึด ถึก ทน มาก จากการเจอกันมาแล้ว 1 ครั้ง ผมมองว่าเขายังคงเป็นคนเดิม และคงใช้แผนเดิม เพิ่มเติมแค่ความอึด ส่วนผมได้ศึกษาและแก้เกมเขามาแล้ว รอดูเซอร์ไพรส์ที่ผมจะปิดเกมเขาได้เลย”
“ผมคาดหวังมากกับไฟต์นี้ซึ่งเป็นไฟต์แรกของผมในปี 2568 ผมตั้งใจจะเก็บชัยชนะให้ได้ ผมคิดว่าเกมการชกคงสนุกดุเดือดสูสีเหมือนเดิมไม่ต่างจากภาคแรก แต่ตอนจบจะต้องแตกต่าง เพราะครั้งนี้ผมจะเป็นผู้ชนะ”.
- ช่องทางติดตาม >> ข่าวมวยวันนี้