“ก้องชัย ไฉนดอนเมือง” มวยซ้ายดุดัน วัย 22 ปี จากบุรีรัมย์ พร้อมปล่อยพลังเดือดท้าชนคู่ชกฟอร์มร้อนแรง “ชาติพยัคฆ์ ศักดิ์สตูล” จอมบู๊อาวุธหนัก วัย 26 ปี จากสตูล โดยทั้งคู่จะแข่งขันกันภายใต้กติกามวยไทย รุ่นสตรอว์เวต (115-125 ป.) ในฐานะคู่เอกของ ศึก ONE ลุมพินี 98 ที่จะถ่ายทอดสดไปยัง 195 ประเทศทั่วโลก จากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในวันศุกร์ที่ 28 ก.พ.นี้ เริ่มคู่แรก 19.30 น.
ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา “ก้องชัย” เป็นนักชกที่ลงแข่งขันมากที่สุดในรายการ ONE ลุมพินี (11 ไฟต์) และโชว์สไตล์บู๊ดุเดือดจนติดตาตรึงใจแฟนมวยเป็นอย่างมาก ทำให้เขาได้รับโอกาสขึ้นป้ายเป็นคู่เอกนำรายการมาแล้ว 5 ครั้ง รวมถึง 4 ไฟต์หลังสุดด้วยเช่นกัน
โดยผลงานล่าสุดเขายังคงเดินหน้าปล่อยพลังเดือดต่อเนื่อง แต่พลาดท่าโดน 1 นับก่อนพ่ายคะแนนเอกฉันท์ “รามาดาน ออนดาช” ดาวรุ่งจากเลบานอนไปแบบสุดมันในรายการนัดแรกของปี ศึก ONE ลุมพินี 93 เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา
“ไฟต์ที่แล้วกับ รามาดาน ผมวางแผนมาใช้แข้งเล่นงานเขาโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นไปตามแผนหมดทุกอย่าง จนผมเห็นเขามีอาการ แต่ผมใจร้อนเร่งเกมมากเกินไปจนโดนหมัดหล่นลงไปเสียนับ หลังจากนั้น ผมไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ก็เลยเดินไล่ออกหมัด ออกแข้ง แจกอาวุธใส่เขาให้มากที่สุด แต่เสียดายที่ไม่สามารถเอาชนะเขาได้”
“ความพ่ายแพ้ในไฟต์ล่าสุดทำให้ผมได้บทเรียนเยอะมากและได้เติบโตไปอีกขั้น ผมได้เรียนรู้ว่าถ้าเห็นคู่ต่อสู้มีอาการ เราต้องมีสติและใจเย็นให้มากกว่านี้ อย่าได้ใจมากเกินไป และต้องเลือกจังหวะออกอาวุธให้ดีกว่านี้ครับ”
ไฟต์ที่สองของปี 2568 “ก้องชัย” ขึ้นป้ายคู่เอกอย่างต่อเนื่อง โดยครั้งนี้ถูกประกบให้ดวลกับ “ชาติพยัคฆ์” นักสู้ฟอร์มร้อนแรงที่กวาดชัยชนะ 5 ไฟต์รวดบนสังเวียนแห่งนี้ โดยเป็นการปิดเกมน็อกเอาต์ถึง 4 ครั้ง กวาดโบนัส 350,000 บาท จากบิ๊กบอส “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” ไปแล้วเป็นเงิน 1,400,000 บาท (หนึ่งล้านสี่แสนบาท)
ผลงานล่าสุด “ชาติพยัคฆ์” ปล่อยกำปั้นเดือดเรียก 1 นับจาก “คมเพชร แฟร์เท็กซ์” คู่ปรับเก่าของ “ก้องชัย” ก่อนจะเอาชนะคะแนนเสียงข้างมากไปได้ ในศึก ONE ลุมพินี 86 เมื่อเดือน พ.ย.67
จากฟอร์ม 5 ไฟต์ที่ผ่านมา เรียกได้ว่า “ชาติพยัคฆ์” กำลังอยู่ในเส้นทางลุ้นคว้าสัญญา ONE แต่ทาง “ก้องชัย” ก็มีเป้าหมายไม่ต่างกัน โดยประกาศลั่นว่าพร้อมเปิดเกมบู๊ตามสไตล์และขอเป็นคนแรกที่ยัดเยียดความปราชัยให้กับ “ชาติพยัคฆ์” บนสังเวียนแห่งนี้
“สำหรับ ชาติพยัคฆ์ เป็นมวยที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงมาก มีอาวุธหมัดกับศอกที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ส่วนจุดอ่อนจากที่ผมศึกษามา จะเห็นได้ว่าเขามักจะมีแผ่วให้เห็นในช่วงท้ายเกม และผมมั่นใจว่าผมมีแรงและอึดกว่าเขาแน่นอน”
“เขาถือเป็นด่านใหญ่ที่ผมต้องผ่านให้ได้ ถ้าชนะได้ ผมจะกลายเป็นคนแรกที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ในรายการนี้ ผมตั้งใจว่าจะเดินเปิดเกมบู๊ตามสไตล์ของผม รูปเกมไฟต์นี้ผมคงคาดการณ์ไม่ได้ว่าจะจบแบบไหน แต่มีเท่าไหร่ ผมจะทุ่มสุดตัว แฟนมวยจะได้เห็นอาวุธมวยไทยครบเครื่อง และความสนุกตื่นเต้นจากไฟต์ของเราสองคนแน่นอน”
“ในไฟต์ที่ 2 ของปีนี้ ผมอยากเรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมา ตั้งใจจะพิสูจน์ตัวเองอยากโชว์ผลงานให้ประทับใจทุกคน ผมอยากจะตามรอยพี่ สุริยันต์เล็ก ไปชก ONE บ้าง ถึงเขาจะยังไม่ได้สัญญาแต่เขาได้โอกาสไปชกบนสังเวียนใหญ่ระดับโลก เขาเป็นแรงบันดาลใจให้ผมอยากไปถึงจุดนั้นบ้าง ศึกครั้งนี้ผมจะสู้สุดความสามารถเพื่อคว้าชัยชนะให้ได้ครับ”.
- ช่องทางติดตาม >> ข่าวมวยวันนี้