“เพชรจีจ้า ลูกเจ้าพ่อโรงต้ม” แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวต (105-115 ป.) วัย 23 ปี จากชลบุรี หวนคืนสังเวียนในรอบปีให้หายคิดถึง พร้อมบุกไปป้องกันบัลลังก์ครั้งแรกจาก “คานะ” ผู้ท้าชิงสาวคนดังแดนปลาดิบ วัย 32 ปี ในศึก ONE 172: ทาเครุ vs รถถัง ที่จะถ่ายทอดสดไปยัง 195 ประเทศทั่วโลก จากสังเวียน ไซตามะ ซูเปอร์ อารีนา ประเทศญี่ปุ่น ในวันอาทิตย์ที่ 23 มี.ค.68 เริ่มเวลา 14.00 น.
ไฟต์ล่าสุดของ “เพชรจีจ้า” ต้องย้อนกลับไปในศึก ONE Fight Night 20 เมื่อเดือน มี.ค.67 โดยวันนั้นเธอขึ้นชกในฐานะแชมป์โลกเฉพาะกาล โชว์ฟอร์มแกร่งปล่อยหมัดเรียก 1 นับ ในยกสุดท้าย เอาชนะคะแนนเอกฉันท์ “เจเน็ต ท็อดด์” เจ้าของบัลลังก์ จากสหรัฐอเมริกา ขึ้นแท่นครองตำแหน่งราชินี ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวต แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งตอนนี้เธอพร้อมแล้วที่จะทำหน้าที่แชมป์โลกเพื่อรั้งบัลลังก์ครั้งแรกจากผู้ท้าชิงดีกรีโหดอย่าง “คานะ” ที่จะชกในบ้านตัวเอง
โดยล่าสุด “เพชรจีจ้า” ได้เปิดค่ายมวย ส.เดชะพันธ์ ย่านรัชดา ที่เธอใช้เป็นสถานที่ฝึกซ้อมหลักอยู่ในปัจจุบัน ต้อนรับบรรดาสื่อมวลชนเพื่อร่วมกิจกรรมเช็กฟิต (Open Workout) ซ้อมโชว์ รวมถึงให้สัมภาษณ์ความพร้อมล่าสุด ก่อนขึ้นสังเวียนไฟต์สำคัญในวันที่ 23 มี.ค.นี้
“หนูซ้อมทำร่างกายมาตลอด ก่อนที่ช่วงหลังจะเร่งขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง รวมแล้วประมาณ 2 เดือน ตอนนี้สภาพร่างกายประมาณ 70-80 เปอร์เซ็นต์ เมื่อถึงวันชกพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์แน่นอน หนูรู้สึกดีใจที่ได้โอกาสกลับมาชกอีกครั้งและยังเป็นการป้องกันแชมป์ครั้งแรกของตัวเองด้วย”
“เมื่อ 10 ปี ก่อนตอนอายุประมาณ 14 ปี หนูเคยไปชกที่ญี่ปุ่นมาแล้วสองครั้ง ผลออกมาแพ้ทั้งหมด แต่ครั้งนี้ไม่ได้ไปเพื่อแพ้แน่นอนค่ะ”
“คานะ เขาเป็นมวยที่มีความเร็ว คล่องตัวสูง รวมถึงมีอาวุธที่หนักด้วย ถือเป็นนักมวยที่ชกด้วยยากอีกหนึ่งคน เพราะเขาสามารถชกได้ทั้งสองการ์ด”
“จุดเด่นที่สุดของ คานะ คืออาวุธหมัดและความเร็ว ส่วนจุดอ่อนของเขาคือมีอาการแผ่วปลายให้เห็น ช่วงต้นยกอาจจะยังแรงดีอยู่ แต่เข้าสู่ช่วงปลาย ๆ แรงก็เริ่มหมดเหมือนกัน”
“หนูมองว่านักสู้ญี่ปุ่นมีสไตล์การต่อสู้ที่คล้าย ๆ กัน เขาเตะขาได้เร็วและมีหลากหลายรูปแบบ หนูต้องระวังเรื่องพวกนี้ให้ดี ส่วนตัวมีความกังวลอยู่บ้าง แต่ก็ต้องมีสมาธิในการต่อสู้บนเวทีให้เต็มที่ค่ะ”
ทั้งนี้ “เพชรจีจ้า” ยอมรับว่าการห่างหายจากการแข่งขันไปนานอาจส่งผลกระทบต่อฟอร์มการชกอยู่บ้าง แต่ตนได้เตรียมพร้อมร่างกายมาอย่างดีที่สุดแล้ว เพื่อบุกไปสู้กับ “คานะ” อย่างเต็มที่และต้องรักษาเข็มขัดเอาไว้ให้ได้
“ครั้งนี้หนูต้องออกไปชกที่ญี่ปุ่นบ้านของเขาด้วย มีความกดดันเรื่องเสียงเชียร์เจ้าถิ่นอยู่บ้าง แต่จะควบคุมสติไม่ให้ตื่นเต้น รวบรวมสมาธิให้ดี โฟกัสแค่การชกตรงหน้าอย่างเดียวค่ะ”
“หนูมองว่าไฟต์นี้น่าจะสู้กันสนุก ไม่ได้มองว่าจะมีนับมีน็อกหรือเปล่า ต้องดูจังหวะของเกมด้วย เพราะเราต่างก็เป็นมวยหมัดเหมือนกัน คือถ้าหนูโดนก่อนก็มีโอกาสร่วงได้ แต่หนูก็เสริมเรื่องเวตไป มั่นใจว่าอาวุธหนูก็หนักเหมือนกันค่ะ”
ต่อจากนี้หากฝ่าด่านแกร่งอย่าง “คานะ” ไปได้ เป้ามายต่อไป “เพชรจีจ้า” พร้อมกลับไปโฟกัสในกติกามวยไทยอย่างเต็มตัวเพื่อตามล่าเข็มขัดอีกเส้นมาครอง
“ถ้าป้องกันเข็มขัดคิกบ็อกซิ่งได้ หนูอยากกลับไปชกมวยไทยอีกครั้ง เพราะว่าน่าจะสู้ได้สนุกดุเดือดมากกว่า มีทั้งศอกและเข่า ซึ่งเป็นอาวุธที่หนูถนัดหมดเลย ส่วนตัวหนูอยากได้เข็มขัดมวยไทยมานานแล้ว ถ้ามีโอกาสก็อยากเจอกับ อัลลิเซีย (เฮลเลน รอดริเกส) เจ้าของแชมป์เหมือนกัน”.
- ช่องทางติดตาม >> ข่าวมวยวันนี้