“ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์” เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต และ ผู้ท้าชิงอันดับ 1 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) ยืนยันพร้อมสมบูรณ์เตรียมขึ้นสังเวียนรีแมตช์ชิงบัลลังก์มวยไทยภาคสองกับ “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” มวยซ้ายดุดัน วัย 25 ปี จากชลบุรี เจ้าของเข็มขัดคนปัจจุบัน ในศึก ONE 170 ที่จะกลับมาระเบิดความมันขั้นสุดอีกครั้ง ณ อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี ในวันศุกร์ที่ 24 ม.ค.นี้ เริ่มคู่แรก 18.00 น.
สำหรับ “ซุปเปอร์บอน” เคยได้รับโอกาสขึ้นท้าชิงบัลลังก์มวยไทยของ “ตะวันฉาย” มาแล้ว 1 หน ในศึก ONE ลุมพินี 46 เมื่อเดือน ธ.ค.66 ซึ่งวันนั้นเป็นฝ่ายพ่ายแพ้คะแนนเสียงข้างมาก ทำให้พลาดโอกาสขึ้นเป็นราชันคนใหม่ไปอย่างน่าเสียดาย
หลังจากนั้นเขาขึ้นสังเวียนเปิดศึกชิงแชมป์เฉพาะกาลกติกาคิกบ็อกซิ่งกับ “มารัต กริกอเรียน” คู่ปรับเก่าชาวอาร์เมเนีย ในศึก ONE ลุมพินี 58 เมื่อเดือน เม.ย.67 ซึ่งสามารถเอาชนะคะแนนเอกฉันท์ขึ้นนั่งแท่นบัลลังก์เฉพาะกาลได้สำเร็จ
ส่วนผลงานล่าสุดเพิ่งเปิดศึกชิงอันดับ 1 แรงกิงมวยไทยกับ “โจ ณัฐวุฒิ” กำปั้นมาดเท่ วัย 35 ปี จากนครราชสีมา ก่อนจะโชว์พลังศอกเอาชนะน็อกตั้งแต่ยกแรก ในศึก ONE ลุมพินี 81 เมื่อเดือน ก.ย.67 จนสามารถคว้าโอกาสขึ้นท้าชิงเข็มขัดของ “ตะวันฉาย” เป็นครั้งที่สอง ซึ่งก่อนการแข่งขันครั้งนี้เจ้าตัวเพิ่งถูกสถาปนาให้เป็นแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต อย่างเป็นทางการ เรียกได้ว่าเป็นการเพิ่มเติมกำลังใจในการไล่ล่าความสำเร็จในไฟต์นี้อีกด้วย
โดยล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันพุธที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา “ซุปเปอร์บอน” ได้เปิดประตูค่ายมวยซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์ ในย่านบึงกุ่ม ต้อนรับบรรดาสื่อมวลชนเพื่อร่วมกิจกรรมเช็กฟิต (Open Workout) ซ้อมโชว์ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการแข่งขัน รวมถึงให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมล่าสุดก่อนขึ้นชกไฟต์แรกของปี 2568 ในวันที่ 24 ม.ค.นี้
“การเตรียมพร้อมครั้งนี้ ผมฟิตซ้อมมาอย่างดีมากกว่าไฟต์ที่ผ่าน ๆ มา ถือว่าร่างกายพร้อมสมบูรณ์เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ พร้อมสำหรับการแก้มือในครั้งนี้แล้ว”
“จากการเจอกันมาแล้ว 1 ครั้ง ตะวันฉาย เป็นฝีมือมวยที่ฉลาดมาก แข้งซ้ายเร็วและแรง สิ่งที่ผมต้องทำคือบังแข้งซ้ายและพยายามตอบโต้ให้ได้ทันควัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ไม่ยากเกินไป ผมหาวิธีรับมือไว้แล้วครับ”
“ผมศึกษาจากไฟต์ที่เขาชกกับ โจ ผมเห็นว่าจังหวะไหนที่ โจ ทำได้ดี ผมก็สามารถเอามาปรับใช้ได้เหมือนกัน จังหวะไหนที่ผมเอาชนะ ตะวันฉาย ได้ ผมก็ซ้อมตรงนั้นให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้หมัดให้มากขึ้น และจะไม่เดินไปให้เขาถีบง่าย ๆ เหมือนไฟต์ก่อน”
ศึกครั้งนี้ “ซุปเปอร์บอน” มุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำศึกล้างตาครั้งนี้ พร้อมทั้งแสดงความมั่นใจว่าผลการชกครั้งนี้ไม่จบแบบเดิมแน่นอน และจะต้องทำให้เขาสร้างประวัติศาสตร์ขึ้นแท่นเจ้าบัลลังก์สองกติกาของรุ่นนี้ให้ได้
“การกลับมาเจอกันในรอบ 1 ปี ผมมองว่าการแข่งขันครั้งนี้จะแตกต่างจากไฟต์ก่อน เพราะผมเห็นข้อผิดพลาดของตัวเองและนำกลับมาแก้ไข ตะวันฉาย ก็คงทำแบบเดียวกัน ไฟต์นี้จะต้องดุเดือดกว่าภาคแรก เพราะต่างคนต่างไม่ยอม ผมต้องการชนะ น้องเขาก็ต้องการรักษาแชมป์เอาไว้ให้ได้ สนุกดุเดือดกว่าไฟต์ก่อนแน่นอน”
“ถ้าสามารถเอาชนะไฟต์นี้ได้ผมจะเป็นแชมป์โลก 2 กติกา ซึ่งถือเป็นเป้าหมายสูงสุดในชีวิตการชกมวย สิ่งนี้จะแสดงให้เห็นว่าผมมาถึงจุดสูงสุดของอาชีพแล้ว ผมยืนยันพร้อมป้องกันตำแหน่งไม่ว่าใครจะมาท้าชิง ถ้า ตะวันฉาย อยากข้ามสายมาท้าชิงแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่ง ผมยินดีที่จะชกกับน้องเขากี่ครั้งก็ได้ เพราะเป็นการพิสูจน์ตัวเองเหมือนกัน”.
- ช่องทางติดตาม >> ข่าวมวย